ประวัตินายสุโพธิ์ ฉายขจร

ประวัติ นายศุภากร (สุโพธิ์ ) ฉายขจร

เรียนท่าน……………………………………………..ประธานในพิธี
บรรดาญาติพี่น้อง และแขกท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน

บทนำ
กระผม พันเอกสุชาต จันทรวงศ์ ได้รับเกียรติจากเจ้าภาพให้เป็นผู้อ่านประวัติและคำไว้อาลัยแด่ นายศุภากร หรือชื่อเดิม สุโพธิ์ ฉายขจร ผู้วายชนม์ เพื่อเป็นการรำลึกถีงเป็นวาระสุดท้าย ก่อนที่จะประกอบพิธีฌาปนกิจศพต่อไป

และในการอ่านประวัติในครั้งนี้ กระผมขออนุญาตใช้คำเรียกผู้วายชนม์ว่า น้าโพธิ์ เนื่องจากกระผมเป็นหลานของน้าโพธิ์ ได้มีโอกาสรับรู้และเห็นวิถีชีวิตของน้าโพธิ์มาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งถึงวาระสุดท้าย ในวันนี้

น้าสุโพธิ์ ถือกำเนิดขึ้นบนโลกใบนี้ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พุทธศักราช 2489 ณ บ้านเลขที่ 10 ท่าเสา ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ปัจจุบันของกระผม น้าโพธิ์เป็นบุตรชายคนโตของ ตากุหลาบ และยายเลี้ยง ฉายขจร มีน้องร่วมอุทธรณ์เดียวกัน จำนวน 3 คน ได้แก่

  • น้องคนที่ 1 เด็กหญิงจุก ฉายขจร เสียชีวิตตั้งแต่เด็กจากสาเหตุการจมน้ำ
  • น้องคนที่ 2 น.ส.ฉลวย ฉายขจร หรือน้าแดง ปัจจุบัน อยู่กับคุณแม่สุพร จันทรวงศ์
  • และน้องคนสุดท้อง คือ จ.ส.อ.ไชยรัตน์ ฉายขจร ปัจจุบัน รับราชการทหาร สังกัดกองพันทหารช่างที่ 112 จังหวัดราชบุรี

ชีวิตในวัยเยาว์
ครอบครัวฉายขจร ของเรา …มีพื้นเพอยู่ ณ บ้านท่าเสา ต.หน้าเมือง… อ.เมือง จ.ราชบุรี… มีวิถีชีวิตในลักษณะครอบครัวใหญ่ตามแบบคนโบราณ…ตาหลาบ….ซึ่งเป็นพ่อของน้าโพธิ์มีอาชีพเป็นช่างไม้ก่อสร้าง….พี่ๆ หลายคนซึ่งร่วมพ่อเดียวกัน….ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการต้องย้ายที่ทำงานบ่อยๆ จึงไม่คอยได้กลับมาบ้าน…. น้าโพธิ์ในฐานะที่เป็นผู้ชายและเป็นพี่คนโตที่สุด… จึงต้องรับภาระทำหน้าที่เป็นผู้ปกครอง…และเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแล…อบรม…สั่งสอนน้องๆ และหลานๆ ….จำนวนมากมาย

น้าโพธิ์ …ได้เริ่มเข้าเรียนที่โรงเรียนวัดมหาธาตุวรวิหาร…. หลังจากนั้นได้เรียนต่อ …ณ โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จ.ราชบุรี ….หลังจากจบชั้นมัธยมต้น….. ได้เข้ารับการศึกษาต่อ ณ โรงเรียนการช่าง ในแผนกช่างไม้….. ซึ่งปัจจุบันคือวิทยาลัยเทคนิคราชบุรี…..จนจบระดับชั้น ประโยควิชาชีพ

ชีวิตการทำงาน
แม้ว่าในขณะเรียนหนังสือ……น้าโพธิ์ก็ยังคงต้องทำงานไปด้วย….เพื่อหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว….. แต่น้าโพธิ์ก็ไม่เคยเสียการเรียน….. มีความขยันหมั่นเพียร อดทน ในการเรียนหนังสือมาโดยตลอด….. จนหลังจบการศึกษา….. น้าโพธิ์สามารถสอบเข้าเรียนต่อในระดับอนุปริญญาของการรถไฟแห่งประเทศไทย…..

และหลังจากจบอนุปริญญา…… น้าโพธิ์ ได้บรรจุเข้ารับราชการครั้งแรก……ในตำแหน่ง ช่างจัตวา…..ทำงานอยู่ในเขตพื้นที่ภาคใต้ แถบจังหวัดยะลา พัทลุง

ในเวลาต่อมา…. น้าโพธิ์ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น…. นายตรวจทาง…. ชีวิตการทำงานของน้าโพธิ์…จึงต้องเดินทางไปปฏิบัติต่อในหลายจังหวัด….. อันได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดศรีษะเกตุ จังหวัดลำปาง จนกระทั่งลาออกในตำแหน่งสุดท้าย… คือ สารวัติบำรุงทางจังหวัดสุรินทร์

ชีวิตสมรส
น้าโพธิ์ …ได้สมรสกับ น.ส.นภาพร …สกุลเดิม ชูสุวรรณ …เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พุทธศักราช 2518 …ซึ่งปัจจุบันเป็นข้าราชการ ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข… มีบุตรธิดาสืบทอดสกุล…ร่วมกันจำนวน 3 คน อันได้แก่

  • คนที่ 1 ส.ต.ต.กฤษฎา ฉายขจร หรือ น้องกบ
  • คนที่ 2 น.ส.ลัดดาวัลย์ ฉายขจร หรือ น้องเจี๊ยบ
  • และคนสุดท้อง นายวรุษ ฉายขจร หรือน้องมด

ชีวิตหลังลาออกจากราชการ
หลังลาออกจากราชการ…. น้าโพธิ์พาครอบครัวทั้งหมดกลับมาใช้ชีวิตอยู่ ณ บ้านท่าเสา ซึ่งเป็นบ้านเกิด … วิชาชีพสำคัญที่น้าโพธิ์ได้รับการถ่ายทอดมาจากพ่อคือตากุหลาบ… ในด้านงานช่างไม้ ….และวิชาชีพช่างก่อสร้างที่ได้เล่าเรียนเพิ่มเติมในตอนวัยเยาว์ …น้าโพธิ์จึงยึดอาชีพส่วนตัวที่ตนเองถนัด… คือ….เป็นช่างควบคุมงานก่อสร้างให้แก่บริษัทก่อสร้างต่างๆ จำนวนหลายบริษัท

วิถีชีวิตของน้าโพธิ์ เรียบง่าย….. น้าโพธิ์เป็นคนที่รักครอบครัว…. รักญาติพี่น้อง…. และรักเพื่อนฝูง …ในขณะที่มีใครก็ตามที่ได้รับความเดือดร้อน น้าโพธิ์มักจะอาสาและรับเป็นธุระคอยจัดแจงให้อยู่เสมอ ….

น้าโพธิ์เป็นคนที่พูดเสียงดัง…. พูดจริง….. และพูดตรงไปตรงมา …บรรดาน้องๆ หลานๆ หรือแม้แต่กระทั่งตัวกระผมเอง …หากกระทำสิ่งใดที่ไม่ถูก… ไม่ต้อง… น้าโพธิ์จะคอยว่ากล่าวตักเตือนอยู่เสมอ… สิ่งสำคัญที่สุดที่น้าโพธิ์สอนพวกเราไว้…… และน้าโพธิ์ได้แสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างเสมอในขณะที่มีชีวิตอยู่…..

สิ่งแรกก็คือ…. ความกตัญญูรู้คุณคน ….ตัวอย่างหนึ่ง….ที่กระผมอยากหยิบยกขึ้นมาให้เห็น….น้าโพธิ์ไม่เคยลืมแม่ของกระผม……ในปัจจุบันขณะที่พวกเราไปทำงานกันหมด….. น้าโพธิ์จะหมั่นแวะเวียนมาคอยดูแลสุขภาพ..และพูดคุยกับแม่ของกระผมอยู่เสมอ….และคอยวัดความดันทุกครั้งก่อนจะไปหาหมอ…...แม้วันนี้แม่ของกระผมจะมาเผาร่างของน้าโพธิ์ไม่ได้ เนื่องจากความชรา…แต่กระผมขอฝากคำที่แม่พูดไว้….เมื่อแม่รู้ข่าวว่า " ….น่าจะเอาชีวิตของแม่ไปเสียดีกว่า…เพราะแก่มากแล้ว…..ทำไมต้องเอาชีวิตสุโพธิ์..น้องของฉันไปด้วย เขายังมีภาระเยอะอยู่…. "

สิ่งที่สองที่น้าโพธิ์สอนพวกเราไว้ คือ….. พวกเรามีโคตรญาติตระกูล…..และพี่น้องจำนวนมากมาย ที่กระจัดกระจายกันอยู่…..จงพยายามรักกันไว้….และให้หมั่นติดต่อกันอยู่เสมอ….อย่าได้ขาด…หลังจากที่…น้าทุ่น ….น้าทศ ….และน้าเขียว จากพวกเราไปแล้ว….. น้าโพธิ์จึงเป็นผู้ที่รู้จักญาติพี่น้อง….ของพวกเรา…..ที่กระจัดกระจายอยู่ในที่ต่างๆ มากที่สุด….

ชีวิตในช่วงสุดท้าย
ยามเช้าตื่นนอน… น้าโพธิ์จะวิ่งออกกำลังกายเป็นประจำอยู่เสมอมิได้ขาด….. และยามใดที่มีเวลาว่าง…..ก็มักจะขี่รถจักรยานยนตร์….ไปเยี่ยมญาติพี่น้องในที่ต่างๆ อยู่เป็นไปประจำ … น้าโพธิ์ได้ประสบอุบัติเหตุ…..ทางรถจักรยายนตร์ที่ร้ายแรง…. เมื่อปีพุทธศักราช 2546 ในขณะที่ขี่รถ …..ไปแจกการ์ดงานบวชลูกชายคนโต…. สมองของน้าโพธ์….ถูกกระทบกระเทือนจนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด…. หลังจากรักษาหาย ….น้าโพธิ์จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ศุภากร” ตั้งแต่บัดนั้นมา…

วันสุดท้ายของชีวิต
เช้าตรู่…..ของวันจันทร์ที่ 6 กันยายน พุทธศักราช 2547….. ชีวิตประจำวันทุกอย่างของน้าโพธิ์และครอบครัว…..ดำเนินไปอย่างปกติ……. น้าโพธิ์ได้ขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อไปซื้อน้ำมันที่ ปั๊ม ปตท. ….เชิงสะพานศิริลักขณ์ …. และในขณะที่กำลังจะกลับรถบนถนนเพชรเกษม ….จึงได้ประสบอุบัติเหตุ….โดยโดนรถยนตร์บรรทุกสิบล้อ…..ที่ลงจากสะพานพุ่งเข้าชน..….

บุตรสาวได้พบเห็นพอดี….ในขณะที่กำลังจะเดินทางไปทำงาน…. และได้มีพลเมืองดีช่วยเหลือ…..นำส่งโรงพยาบาลเมืองราช…..แพทย์และพยาบาลได้พยายามช่วยชีวิตน้าโพธิ์อย่างเต็มที่….แต่ในที่สุด…น้าโพธิ์….ก็ไม่สามารถต่อสู้กับมันได้…. น้าโพธิ์หมดลมหายใจ….และจากพวกเราไปอย่างสงบ ณ โรงพยาบาลเมืองราช เมื่อเวลาประมาณ 10.00 นาฬิกา……

สิริรวมอายุบนโลกมนุษย์ ของนายศุภากร หรือน้าโพธิ์ของเรา รวมได้ 21,297 วัน หรือ 58 ปี 4 เดือน 3 วัน

นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา

เรียบเรียงโดย พันเอกสุชาต จันทรวงศ์
12 กันยายน 2547